ความลำบากของวิถีไบค์เกอร์ในเมืองกรุงตอนฝนตก บางครั้งก็เศร้ากว่าละครตอนอวสาน สารพัดอุปสรรคประเดประดังเข้ามาในเวลาเดียวกัน แต่ทุกปัญหามีทางออกเสมอ
จากการพูดคุยกับผู้คนที่ใช้รถจักรยานยนต์ถึงความลำบากของการขับขี่ช่วงหน้าฝนในเมืองกรุง เหล่าไบค์เกอร์จัดเลเวลของความโหด 5 รูปแบบ
Level 2 ทัศนวิสัยแย่ มองไม่ค่อยเห็นทาง โดยเฉพาะทางที่แสงไฟน้อยยิ่งขับยาก
Level 2 เพื่อนร่วมทางขับเร็ว น้ำสาดใส่หน้า ฝ้าขึ้นหมวกกันน็อค
Level 3 เจอหลุม ร่องท่อน้ำทิ้ง บนถนน เซจนเกือบขะมำ
Level 4 รถตัดหน้ากะทันหัน เบรกแรง ล้อปัด โอกาสล้ม 50/50
Level 5 น้ำท่วมสูงเกินครึ่งล้อ กลับตัวก็ไม่ได้ ขับต่อไปก็สำลักน้ำ
เชื่อว่ายังมีประสบการณ์พีคๆ ที่เหล่าไบค์เกอร์ต้องในหน้าฝน แต่เมื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไม่ได้ก็คงต้องหาวิธีในการเดินทางที่ปลอดภัยทั้งกับตัวเอง และเพื่อนร่วมทางมากที่สุด
\ขั้นแรกคือการเตรียมตัวเองให้พร้อมเจอกับสถานการณ์ต่างๆ เริ่มต้นจากเคลียร์ใต้เบาะหาที่เก็บไอเทมที่จะทำให้ชีวิตไบค์เกอร์ช่วงหน้าฝนดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- เสื้อและกางเกงกันฝน หรือชุดกันฝน
- กระเป๋าเป้กันน้ำ สำหรับเก็บของจุกจิก
- รองเท้ายางหุ้มส้น เก็บไว้เปลี่ยนเมื่อต้องขับรถลุยฝนเพราะแห้งง่ายกว่าผ้าใบมาก และลดโอกาสรองเท้าคู่โปรดพังเพราะน้ำได้ด้วย
- หมวกกันน็อคเต็มใบ
- อุปกรณ์ล็อคล้อ กรณีที่น้ำท่วมสูงจนไม่สามารถขับกลับได้ ถึงขั้นจอดรถทิ้งไว้ที่ใดที่หนึ่ง
- เสื้อผ้า ชุดชั้นใน กรณีที่ต้องฝ่าฝนไปทำงาน (เก็บไว้ในรถ หรือออฟฟิศก็ตามสะดวก)
- ขนมที่เก็บได้นาน ติดกระเป๋าไว้เผื่อติดฝนนานๆ ก็ไม่เสียหาย
- ดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้า (ระบบในโทรศัพท์ หรือจากกรมอุตุนิยมวิทยา) จะได้คาดการณ์สภาพอากาศล่วงหน้า เพื่อเตรียมเผื่อเวลาในการออกเดินทางให้เหมาะสม
วิธีขับรถฝ่าฝนตกระหว่างทาง
หากจำเป็นต้องเดินทางระหว่างที่ฝนตกจริงๆ ต้องอยู่ในภาวะที่ฝนตกไม่หนักจนเกินไป ยังสามารถมองเห็นทางชัดเจน หากประเมินว่าสามารถขับไปได้ ลองมองหาสถานที่ที่สามารถจอดรถเพื่องัดไอเทมกันฝนออกมาสวมใส่ให้เรียบร้อย เก็บของใส่กระเป๋าให้รัดกุม เปิดไฟ สวมหมวกกันน็อค ตั้งสติ สตาร์ท และไปต่อ โดยอย่างลืมคำนึงเสมอว่า ขณะที่ขับขี่กลางสายฝนต้องปรับพฤติกรรมการขับเพื่อความปลอดภัย ดังนี้
- ขับช้าๆ ไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นในช่วงที่ถนนลื่น ถูกน้ำสาดการการวิ่งของรถยนต์ มองเส้นทางได้ชัดเจนกว่าในภาวะที่ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี
- เว้นระยะเบรกมากขึ้นกว่าปกติ เพื่อลดความเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น รถคันหน้าเบรกกะทันหัน หรือมีรถปาดหน้า ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงการขับใกล้รถบรรทุก เนื่องจากมีโอกาสไปอยู่ในมุมบอดของรถขนาดใหญ่เพราะทัศนวิสัยที่ไม่ดี
- ระวังช่องถนน ฝาท่อ หรือหลุมบ่อ พยายามสังเกตสภาพถนนระหว่างที่ขับขี่ช่วยให้สามารถหลบหลีกหรือใช้ความเร็วได้พอเหมาะกับถนน ช่วยลดอุบัติเหตุ
- ที่สำคัญคือต้องใช้ “สติ” มากๆ หากมีอาการง่วงร่วมด้วย แนะนำให้จอดพักรอฝนหยุดจะดีกว่า
สำหรับสถานการณ์ที่หนักหน่วง ฝนตกหนักมากๆ ถึงขั้นที่เรียกว่า ห่าฝน ต้องบอกว่า “ไม่ไหวอย่าฝืน” ไม่ควรจะขับรถฝ่าเม็ดฝนมหาศาลที่นำไปสู่อุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติหลายเท่าตัว ไบค์เกอร์ทั้งหลายแนะนำว่าต้องหาที่พักพิงชั่วคราวก่อน โดยสถานที่ที่ถูกเลือกมากที่สุด คือบริเวณใต้สะพาน (ไม่ควรจอดบริเวณที่ไหล่ทางเล็ก), ป้ายรถเมล์ ที่มีอยู่ทุกๆ ครึ่งกิโลเมตร หรือถ้าโชคเข้าข้างมีห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อที่มีที่จอดรถ อยู่ใกล้ๆ ก็แวะช้อปปิงพรางรอให้ฝนซาค่อยมุ่งหน้าสู่เป้าหมายอีกครั้ง
หลังขับรถฝ่าฝน เป็นอีกเรื่องที่ต้องใส่ใจ เมื่อถึงที่หมายที่สามารถอาบน้ำได้ ให้รีบอาบน้ำสระผมทันที ลดความเสี่ยงป่วยจากการตากฝน และชำระล้างเชื้อโรค และมลภาวะที่มากับน้ำ แต่ถ้าไม่สามารถอาบน้ำได้ทันที อย่างน้อยที่สุดต้องหาที่ล้างเท้าด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดให้แห้งป้องกันโรคน้ำกัดเท้า ที่ร่ำลือกันในวงการไบค์เกอร์ว่าเป็นช่วงหน้าฝนนี่ทรมานสุดๆ
แล้วคุณล่ะ มีประสบการณ์ขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าฝนเลเวลไหนบ้าง?
ช่วงหน้าฝน เป็นอุปสรรคต่อการขับขี่รถทุกชนิด โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ที่จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และเลี่ยงการเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายโดยไม่จำเป็น