“เป็นแฟนธนาธร ต้องทนหน่อยน้อง” อ่านด้วยทำนองเพลง ยาใจคนจน ของไมค์ ภิรมภรณ์ เพื่อเข้าใจสถานการณ์แฟนคลับพรรคอนาคตใหม่ในตอนนี้
เมื่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีคำวินิจฉัยให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสมาชิกภาพความเป็นส.ส. จากกรณีถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เป็นเพียงการโหมโรงเท่านั้น
เพราะสิ่งที่ต้องจับตา คือ การดำเนินคดีเอาผิดต่อด้วย ม.151 ตามพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิรับสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น 20 ปี
หากคณะกรรมการการเลือกตั้งไต่สวนว่าเข้าข่าย ม.151 ก็มีอำนาจยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง
อนาคตของธนาธรไม่แน่ไม่นอน แต่อนาคตสังคมไทยต่อจากนี้จะใช้บรรทัดฐานเดียวกันหรือไม่กับกระบวนการตรวจสอบบรรดา ส.ส.และส.ว.ที่ถูกยื่นให้ตรวจสอบกรณีถือหุ้นสื่อ เช่นเดียวกัน
นอกจากปัญหาหนักอกถือหุ้นสื่อ ปัญหาหนักใจอีกหนี่งปัญหาของอนาคตใหม่คือ กรณีธนาธรปล่อยเงินกู้ให้กับพรรคอนาคตใหม่ กว่า 191 ล้านบาท จนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่พรรคการเมืองกู้ยืมเงินนั้นสามารถทำได้หรือไม่ จะเข้าข่ายเป็นนายทุนพรรคหรือไม่ ซึ่งอาจเข้าข่ายถึงขั้นยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค
แต่พรรคอนาคตใหม่ก็ชี้แจงว่าเงินกู้นั้นไม่อยู่ในนิยามรายได้ของพรรคการเมืองตามกฎหมาย ซึ่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ม.62 ได้บัญญัติรายได้ของพรรคการเมืองไว้ดังนี้
- เงินทุนประเดิม
- ค่าธรรมเนียม / ค่าบำรุงพรรค
- การจำหน่ายสินค้า/ บริการ
- การจัดกิจกรรมระดมทุน
- การบริจาค
- เงินอุดหนุนจากกองทุน
- ดอกผล/รายได้ ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด
กฎหมายฉบับนี้ยังมีสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อ คือ การห้ามบริจาคเกิน 10 ล้านต่อพรรคต่อปี (ม.66), เงินและทรัพย์สินต้องใช้จ่ายเพื่อ กิจกรรมทางการเมืองของพรรค การเลือกตั้งของพรรคและสมาชิก การบริหารพรรค (ม.87) ซึ่งการนำเงินใช้หนี้คุณธนาธรนั้นถือว่าผิดกฎหมายข้อนี้หรือไม่
และถ้าหัวหน้า กรรมการบริหาร เหรัญญิก พรรคการเมือง ยินยอมให้บุคคลอื่นนำเงิน ทรัพย์สิน ของพรรคไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือการอื่นใด ที่ฝ่าฝืน ม.87 วรรคหนึ่ง ต้องโทษจำคุก 5-10 ปี หรือ ปรับ 1-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ม. 132) หมายความว่าถ้าผิดแกนนำพรรคปลิวกันหมดทุกคน
คำตัดสินของศาลที่ให้ธนาธร สิ้นสภาพส.ส. ทำให้มีข้อกังวลว่าคดีอื่นๆ จะนำไปสู่คำตัดสินที่รุนแรงขึ้นอย่างการยุบพรรคหรือไม่นั้น มีกฎหมายหลายฉบับกำหนดการกระทำที่จะนำไปสู่การยุบพรรคได้ดังนี้
- มีหนี้สิ้นล้นพ้นตัวตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย
- กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
- กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง
- ยินยอมบุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกพรรค ควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมือง
- รับบริจาคเพื่อสนับสนุนการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน
- รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- หัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ได้ยับยั้ง กรณีที่มีผู้สมัครทำให้การเลือกตั้งนั้นไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
เมื่อธนาธรไม่ได้เดินเข้าสภาฯ สิ้นสภาพความเป็นส.ส. การเมืองนอกสภาฯ จะยิ่งน่าสนใจ เพราะนับตั้งแต่ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ธนาธรทำหน้าที่ส.ส.นอกสภาและขับเคลื่อนนโยบายพรรค โดยเฉพาะการผลักดันแก้รัฐธรรมนูญโดยการจัดเวทีร่วมพรรคฝ่ายค้าน การแถลงชี้แจงกรณีถือหุ้นสื่อก่อนที่จะมีคำวินิจฉัย และงานอยู่ไม่เป็น ที่เป็นงานใหญ่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ล้มเหลว ซึ่งทุกงานที่อยู่นอกสภาสร้างความสนใจจากทุกสื่อและสังคมได้จริง
แต่การเมืองนอกสภาก็ไม่ใช่เรื่อง่าย หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ก็เพิ่งจะโดน กอ.รมน. แจ้งจับพร้อมแกนนำพรรคฝ่ายค้านคนอื่นๆ และนักวิขาการ ที่ขึ้นพูดในเวทีเสวนา “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ตาม มาตรา 116 ว่า มีการพูดนำเสนอข้อมูลในลักษณะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือ กระทั่งกระเดื่องต่อประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบภายในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน แฟนคลับอนาคตใหม่จึงได้แต่ลุ้นเป็นคดีๆ ไป
เนื้อเพลงยาใจคนจนท่อนนี้ จึงขอมอบให้ยาใจธนาธรทุกท่าน
“ในแต่ละวัน พี่นั้นต้องทำงานหนัก ถ้าไม่มีใจรัก ใครหนอจะร่วมทางได้ ปัญหามากมาย พาใจอ่อนล้า ทั้งทั้งไม่เจตนา แต่ปัญหา ก็มาจนได้”
อ้างอิง:
https://www.posttoday.com/politic/news/593238
https://www.thansettakij.com/content/410255
https://www.nationweekend.com/content/image_news/3128?utm_source=nationtv&utm_medium=relate_solr
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2944496
เมื่อธนาธรไม่ได้เดินเข้าสภาฯ สิ้นสภาพความเป็นส.ส. การเมืองนอกสภาฯ จะยิ่งน่าสนใจ เพราะนับตั้งแต่ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ธนาธรทำหน้าที่ส.ส.นอกสภาและขับเคลื่อนนโยบายพรรค โดยเฉพาะการผลักดันแก้รัฐธรรมนูญโดยการจัดเวทีร่วมพรรคฝ่ายค้าน การแถลงชี้แจงกรณีถือหุ้นสื่อก่อนที่จะมีคำวินิจฉัย และงานอยู่ไม่เป็น ที่เป็นงานใหญ่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ล้มเหลว ซึ่งทุกงานที่อยู่นอกสภาสร้างความสนใจจากทุกสื่อและสังคมได้จริง